Home ข้อคิด ลองเจียดอ่านเพียง 2 นาที เพื่อเป็นได้กำไรชีวิต (แง่คิดดีมาก)

ลองเจียดอ่านเพียง 2 นาที เพื่อเป็นได้กำไรชีวิต (แง่คิดดีมาก)

1. เลิก “กลัวการทำอะไรคนเดียว“

คนที่กลัว การทำอะไรคนเดียว มักจะไม่รู้จักตัวเองดีพอ เพราะการอยู่กับ

คนอื่นตลอดเวลาทำให้เราไม่มีเวลาสะท้อนตัวตน ของตัวเอง บางคนไม่รู้

ว่าตัวเองถนัดอะไร?อยากทำอะไร?หากเราใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเองจริง ๆ

จะทำให้เรามีความั่นใจมากขึ้นยิ่งทำให้มองเห็นเส้นทางในชีวิตชัดเจนมาก

ขึ้นไปด้วย มั ก ซิ ม ก อ ร์ กี นักเขียนชาวรัซเซียเคยกล่าวไว้ว่า “ความเป็น

อัจฉริยะคือ การเชื่อมั่นในตัวเอง และความสามารถของตัวเอง”

2. เลิก “โยนความผิดให้คนอื่น”

สังคมญี่ปุ่น เชื่อในแนวคิดนึงว่า “การรับผิดชอบตัวเอง ไปซะทุกเรื่อง ไม่ใช่

เรื่องดีแต่หากคนเราไม่รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แล้วใครจะมารับผิด

ชอบ? “ อิสรภาพนั้น เกิดจากการรับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบสิ่งที่เราเลือกสิ่ง

ที่เราทำในทุก ๆ ก้าวของชีวิตเมื่อคิดเช่นนี้ เราจะคิดได้ว่าตัวเอง ควรทำอะไร

มากขึ้นคาดเดาอนาคตของตัวเองได้และยังสามารถเตรียมความพร้อมกับ

ความ เ สี่ ย ง ต่าง ๆ ได้อีกด้วย

3. เลิก “ปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง”

หากเราไม่แสดงความรู้สึก ที่แท้จริง ออกไป ทางหลัก จิ ต วิ ท ย า แล้วอีกฝ่าย

จะรู้สึกถึงระยะห่างหรือพูดง่าย ๆ ก็คืออีกฝ่าย ก็จะคบหาเราโดยไม่แสดงความ

รู้สึกที่แท้จริงออกมาเช่นกันคนเราเปรียบเสมือน “กระจกเงา” หากเราต้องการ

เป็นที่ยอมรับ ของคนอื่นเราต้องเป็นฝ่ายยอมรับ และให้ความสำคัญกับผู้อื่น

ก่อนด้วยความจริงใจ

4. เลิก “กลัวว่าจะถูก เ ก ลี ย ด ”

ความ เ ค รี ย ด ของคนเราส่วนใหญ่ เกิดจาก “ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล”

โดยเฉพาะกับคนที่เราเข้าใจยาก หรือไม่เข้าใจเขามากพอคนที่กลัวความ

โดดเดี่ยว จะคิดเรื่องไม่ทำให้ตัวเองถูก เ ก ลี ย ด เป็นอันดับแรกโดยไม่มี

เวลาทำความเข้าใจผู้อื่นอย่างแท้จริง หากเราสามารถเข้าใจเหตุผลของ

ความรู้สึกหรือพฤติกรรมของผู้อื่น เราจะรู้ได้ว่าควรปฏิบัติกับเขาอย่างไรและ

ยังทำให้ช่วยลดความกังวลในเรื่องของความสัมพันธ์ได้นั้นเอง

5. เลิก “ใส่ใจความเห็นคนอื่นมากเกินไป”

คนจำนวนไม่น้อย ที่ภายนอกดูชีวิตสวยหรู แต่เพราะอยากเป็นที่รัก ของทุกคน

จึงต้องคอยเกรงใจและเอาใจคนอื่นจนตัวเองสุ ข ภ า พ จิตเสีย มัวทำตามคน

รอบข้างเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องอยู่คนเดียวหรือถูกกีดกันออกจากกลุ่มเราอาจจะ

ไม่ต้องมีชีวิตที่สวยหรูแต่การยืดอกเป็นตัวเองจะทำให้เรามั่นใจ ในตัวเองมาก

ขึ้น จงมี “ค่านิยม”ที่เรายึดถือแล้วเราจะแยกได้ว่าอะไรคือ สิ่งสำคัญและไม่

สำคัญกับชีวิตเราฟังเสียงคนรอบข้างได้ แต่อย่ามากเกินไปจนเราไม่มีความสุข

6. เลิก “ละทิ้งความฝันหรือเป้าหมาย”

“ความรู้สึกเชื่อมโยง” กับหัวใจตัวเอง หรือการเชื่อมโยงกับความฝันหรือเป้า

หมายของเราเองจะทำให้ “เราไม่คิดว่าตัวเองโดดเดียว” หากเราอยู่กับสิ่งที่

เราชอบเราจะไม่รู้สึกเหงาคนที่รู้สึกโดดเดี่ยวจึงควรหาอะไรที่ช่วยให้ใจจด

จ่อทำ ซึ่งการทำสิ่งที่ชอบเป็นวิธีที่ง่าย และได้ผลดีมาก ๆยิ่งเราทำได้ดีมัน

ก็จะส่งผล กับความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น ดั้งนั้นจงอย่าละทิ้งความ

ฝันและเป้าหมายของตนเอง!

7. เลิก “คิดมากจนไม่กล้าลงมือทำ”

คนที่ “คิดมาก” แท้จริงแล้ว คือคนที่ “ไม่ได้ใช้ความคิดมากนัก” เขาแค่ยึด

ติดกับเรื่อง ๆหนึ่งแล้ววนเวียน อยู่ในหัวตลอดเวลา เมื่อตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

ย่อมไม่สามารถ แก้ไขปัญหาหรือหาหนทางอื่นได้ จึงไม่แปลกที่เขาจะไม่

ลงมือทำอะไรเลยหากเรายอมรับความจริงอย่างตรงไปตรงมาแล้วคิดว่า

“แล้วต้องทำยังไงต่อ” เรื่องที่กลุ้มจะกลายเป็นโจทย์แทนเมื่อเราค้นหา

ข้อมูลจะรู้ว่ามีตัวเลือก ในการแก้โจทย์นั้นอยู่ไม่ว่าสถานการณ์อะไรมันก็

จะมีทางแก้หรือทำให้ดีขึ้นได้เสมอ สิ่งที่สำคัญต่อมาคือ “การลงมือทำ”

ให้สำเร็จนั้นเอง

8. เลิก “หนีปัญหาและมองโลกในแง่ ร้ า ย ”

แทนที่จะหนีปัญหาเราควรที่จะกล้า เผชิญหน้า กับมันตรง ๆ ปัญหาหลาย

อย่างเป็นเพียง“มโนภาพ”เช่น การคิดว่าถ้าเรื่องนู้นเรื่องนี้ เกิดขึ้นจะเป็น

ยังไง? แล้วกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นปัญหานั้นอาจมี ดังนี้ แก้ได้จาก

การ “ถาม-ตอบกับตัวเอง”โดยคำถามที่แนะนำ ให้ทุกคน ไปฝึกถาม-

ตอบกับตัวเอง มี ดังนี้ทำไมถึงเกิดเหตุการนี้? / นี่เป็นเรื่องสำคัญใช่ไหม?

/ ทำยังไงให้มันดีขึ้น? / ทางออกคืออะไร? / เราต้องทำอะไรให้มันดีขึ้น?

คนจำนวนไม่น้อยที่เผลอคิดในแง่ ร้ า ย ไปก่อน แนะนำให้เผชิญหน้า

กับตัวเองมากขึ้นฝึกฝนจนสามารถตีความสิ่งต่าง ๆ ในแง่บวกจนเป็น

นิสัย มันจะทำให้เราก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างเข้มแข็ง

9. เลิก “วิตกกังวลโดยไม่มีสาเหตุ”

จิตใจคนเราจะมั่นคงได้ก็ต่อเมื่อ เราควบคุมระยะห่าง ระหว่างตัวเอง

กับสังคมและตัวเองกับคนรอบข้างได้อย่างเหมาะสมและเข้าใจ หรือ

บางคนอาจมีความกังวัลมากจาก “ความไม่รู้” ก็เป็นได้ดังนั้น สิ่งที่ควร

ทำไม่ใช้การกังวล แต่เป็นการ “หาความรู้”เช่น การ อ่ า น หนังสือเพื่อ

เข้าใจและเท่าทันโลกมากขึ้น สิ่งนี้จะส่งผลให้เราเลิกกลัวหรือกังวล

ต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบตัว

10. เลิก “ยึดติดกับความคิดของตนเอง”

ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ในอดีตล้วนมีความหมายและการเรียนรู้ จากเหตุ

การณ์นั้นอาจแตกต่างกันตามกาลเวลา ในอดีตเราอาจจะเรียนรู้ จากเหตุ

การณ์นั้นอย่างนึงแต่ในตอนนี้ เรากลับไปย้อนมองดูอาจจะได้เรียนรู้ในมุม

ที่ต่างออกไปสิ่งที่อยากบอกคือ อย่าปล่อยให้ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น

เพียง เหตุการณ์นึงแล้วก็ผ่านไปให้ทำความเข้าใจประสบการณ์เหล่านั้น

ให้มากขึ้นและเปลี่ยนมันให้เป็นแรงก้าวเดินต่อในอนาคตได้ ต้องอาศัยรู้

แบบความเข้าใจใหม่ที่เราไม่เคยมีมาก่อน!

11. เลิก “กลัวความเปลี่ยนแปลง”

เราไม่มีทางรู้ล่วงหน้า ว่าความคิดตัวเองจะเปลี่ยนไปอย่างไร? หรืออะไรจะ

เกิดขึ้นในอนาคต?ดังนั้น การฟังเรื่องราวของผู้อื่นมาก ๆ จะทำให้เราได้

เรียนรู้การใช้ชีวิตที่แตกต่างจากตนเองมากขึ้นการรับข้อมูลมากๆ จะทำให้

เราปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีสิ่งที่สำคัญไม่ใช่“ปริมาณข้อมูล” ที่เรา

รับมาแต่มันคือ “การปรับใช้”กับตัวเองให้ได้ต่างหาก จึงจะทำให้ข้อมูลเหล่า

นั้นเกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นจงฝึกฝนเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงและใ

ช้ชีวิตโดยไม่รู้สึกเสียใจในภายหลัง

12. เลิก “หวังว่าคนอื่นจะทำให้เรามีความสุข”

คนที่พูดว่า “ทำไมไม่เข้าใจกันเลย” คือคนที่อยากให้อีกฝ่าย สังเกตเห็นความ

รู้สึกของตนเองแต่อีกฝ่ายก็ไม่ใช่ยอดมนุษย์ที่จะ อ่ า น ใจใครได้ จึงทำให้

เกิดความไม่ลงรอยกันเวลาเรานึกไม่พอใจว่าคนอื่นไม่เข้าใจเราให้เราลอง

มองย้อนตัวเองดูว่าเราได้ พ ย า ย า ม ทำให้เขาเห็นมากพอ ที่จะเข้าใจเรา

หรือยัง จากนั้นให้คิดต่อว่าทำยังไง พูดยังไงเขาถึงจะเข้าใจเรา การคิดและ

ทำเช่นนี้จะทำให้ปัญหาหลายอย่างคลี่คลาย และรู้จักปรับตัวเข้าหากันไปเรื่อย ๆ

ที่มา : k r i t t a m a t em e d i u m

Load More Related Articles
Load More By m1 m1
Load More In ข้อคิด

Check Also

(เตือนสติดีมากๆ) คนที่ “ยอมให้คุณยืมเงิน” เข้าไม่ได้โ ง่

“คนที่กล้า ให้คุณยืมเงิน” ไม่ใช่เพราะ “โ ง่” ลองอ่าน แล้วจะรู้ถึงความจริงที่เขา มีให้คุณคน…