
คำแนะนำนี้อาจใช้ได้สำหรับหลายคนแต่มีอีกหลายคนไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่
ถ้ามุ่งประเด็นที่“ใจ”ของเราอยู่อย่างใจสงบอิสระจากการถูกมัดจากเรื่องภายนอก
คิดว่าทุกอย่างที่เป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้นควรปฏิบัติดังนี้
1.“มองโลกในแง่ดีให้มาก”คิดว่าการที่ติดหนี้สินเพื่อการพัฒนาพิสูจน์ความสามารถในการบริหารจัดการเงิน
แต่ก็ห้ามคิดว่า..พัฒนามากเกินไปจนกลายเป็นฟุ้งเฟ้อไม่รู้จักพอที่แย่คือคิดเอาเงินในอนาคตมาใช้
โดยไม่รู้จักบริหารจัดการให้ดีอย่างนี้ก็เป็นหนี้หัวโต
2.“อย่าเป็นคนรักษาหน้ามาก”บางคนมองการเป็นหนี้คนอื่นเป็นการบอกว่า..เราด้อย
ไม่มีเงินไม่มีทรัพย์สมบัติทนไม่ได้ที่ต้องเป็นหนี้ก็เลยไม่กล้าลงทุนทำอะไรหรือยอม
ไปหาเงินมาจากที่อื่นๆที่ไม่เหมาะสมแทนเช่นเล่นการพนันเสี่ยงโชคยอมขายตัวขายศักดิ์ศรี
แลกเงินแย่กว่าการเป็นหนี้สถาบันการเงินเสียอีก
3.“มองว่าการมีหนี้ก็เพื่อการฝึกควบคุมตนเอง”
และฝึกการบริหารจัดการเรื่องเงินเรื่องทองให้ได้ถ้าทำได้ฝ่าฟันได้จะเป็นผู้มีประสบการณ์แกร่งขึ้น
4.“บอกตัวเองเสมอว่าคนที่เครียดควรเป็นเจ้าหนี้อย่ามองเพียงแค่ว่า..เจ้าหนี้มีความสุข
จากการได้ดอกเบี้ยเงินกู้อย่างเดียว”มีเจ้าหนี้จำนวนมากก็ขาดทุนไปไม่น้อย
ซึ่งควรจะช่วยกันทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้เพื่อให้เกิดความพึงพอใจทั้งสองฝ่ายอย่าเอาเปรียบกันดีที่สุด
5.“เผื่อใจสำหรับการใช้หนี้ไม่ได้อาจต้องยอมขายหรือเสียอะไรบางอย่างบ้าง”
เพื่อให้สามารถบริหารจัดการหนี้ได้อย่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบยึดติดกับวัตถุมากเกินไป
เงินทองของนอกกายไม่ตๅยก็หาใหม่ได้อย่าไปปักใจอยู่กับคุณค่าของวัตถุมากเกินไป
เพราะคุณค่าที่เกิดขึ้นเกิดจากใจของเราต่างหากที่ไปสร้างเงื่อนไขทางความคิดตัวเอง
6.“ผู้ไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ขายชดใช้หนี้”
อย่าลืม“ทรัพย์สินทางปัญญา”ต้องพยยายามหาออกมาใช้ให้มากที่สุดเชื่อว่า..
ไม่มีทรัพย์ใดจะมีค่ามากไปกว่าปัญญาของเราเอง
7.“คิดหาทางเลือกอื่นๆไว้”เมื่อหนี้มีปัญหาอย่าคิดสั้นๆ
อย่าลืมว่า..ปัญหามักจะมีทางออกสำหรับผู้ที่ฝึกคิดเสมอ
8.“การเป็นหนี้ในแง่ดี”คือว่า..คุณยังเป็นคน
ที่มีเครดิตอยู่อย่างไรก็ตามถ้าขอยืมใครแล้วเขาไม่ให้ก็กลับมาทบทวนบอกตัวเองว่า..”ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”
อย่าไปหวังใครจะมาช่วยเราถ้าเรายังไม่เริ่มต้นคิดช่วยเหลือตนเอง
9.“ฝึกตนเองมุ่งมั่นในการทำงานไปเรื่อยๆ”
ไม่ต้องคิดเรื่องการเป็นหนี้อยู่ในสมองให้มากนักมีความรับผิดชอบต่อชีวิตและหนี้สิน
เมื่อนั้นจะรู้สึกมีความสุขมากและจะภูมิใจที่เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบที่ดีให้ชมตัวเองบ่อยๆได้
10.“ถ้าโดนเจ้าหนี้ทวงอยู่เรื่อยๆใช้วิชาการเจรจาต่อรองแสดงความจริงใจว่าจะผ่อนส่งให้”
ถ้าเขาอยากได้มากกว่าที่เราสามารถให้ได้ก็ตอบไปตรงๆว่าไม่สามารถทำได้ในเวลานั้น(แต่จะพยายามหามาให้)
เพราะเขาเองก็กลัวจะไม่ได้เหมือนกันฉะนั้นหาข้อตกลงรอมชอมดีที่สุดอย่าเครียดไปก่อน
เพราะกลัวว่าจะทนต่อการถูกทวงไม่ไหวอย่าลืมว่าเจ้าหนี้บางรายเป็นพวกจู้จี้จุกจิกย้ำคิดย้ำทำ
ซึ่งควรเห็นใจเขาเพราะเงินของใครก็หวงห่วงเป็นธรรมดา
11.“คนที่ค่อนข้างเครียดคิดมากเรื่องการเป็นหนี้”
ให้สำรวจตนเองว่าเป็นคนวิตกกังวลเกินไปหรือไม่ส่งผลต่อชีวิตอย่างไรเช่นทำให้ขยันขึ้นทำให้หมดเรี่ยวแรง
ในการต่อสู้กับปัญหากันไหมถ้าเป็นประเด็นหลังอาจต้องรับการบำบัดรักษาทางด้านสุขภาพจิตจะดีกว่า
หากปล่อยไว้ชีวิตจะค่อยๆหมดพลังในการดำเนินชีวิตในที่สุด
“ผมคิดว่า..ไม่จำเป็นอย่ามีหนี้ดีที่สุดหากต้องมี
ขอให้มีหนี้สินเพื่อเป็นทรัพย์สินที่มั่นคงในอนาคตมากกว่าหนี้สูญเช่น
หนี้จากการฟุ่มเฟือยใช้จ่ายในสิ่งที่ไร้สาระหาความสุขที่มากเกินพอดี”
6สเต็ปการปลดหนี้แบบเท่ๆมาฝากกันดังนี้
1.สร้างวินัยการออมเพื่ออนาคตปราศจากหนี้ หลายๆคนอาจคิดว่า..คนกำลังจะปลดหนี้จะให้
ออมเงินได้ยังไงล่ะคือจ่ายให้ตัวเองก่อนจ่ายที่อื่นไง อาจจะกำหนด10%หรือ5%เงินเดือนเข้า15,000งี้
2.ใช้บัตรเครดิตแบบมีวินัย
ก็คือใช้บัตรเครดิตกับการซื้อของทั่วไปให้มีวินัย คือยับยั้งชั่งใจก่อนใช้
ควรกำหนดงบต่อเดือน แล้วอย่าลืมทำบัญชีรายจ่ายบัตรเครดิต
3.สำรวจตัวเอง
สิ่งแรกที่เราควรทำคือการสำรวจตัวเองว่า…เรา มีหนี้อะไรกับใครเท่าไหร่เพื่อให้เราเห็นภาพรวมได้
4.มีตัวช่วย
ในเมื่อเราจะปลดหนี้การมีช่องทางรายรับเพิ่ม และลดรายจ่ายลงเป็นสิ่งสำคัญ เชียวยิ่ง
ถ้าเรา หาเงินมาปลดหนี้ได้มากก็สามารถกำจัดหนี้ได้เร็ว
5.ทำตามที่วางไว้
ในเมื่อเราวางแผนเอาไว้แล้วหากเราไม่ทำตาม ก็จะไม่เกิดผลจริง
ฉะนั้นก็ในเมื่อเราอุตส่าห์ วางแผนเราก็ควรดึงแผน การออกมาใช้ให้ เป็นประโยชน์สิ
6.วางแผนปลดหนี้
จัดลำดับจากเจ้าหนี้ที่มีดอกสูงไปยังเจ้าหนี้ ที่มีดอกเบี้ยต่ำเมื่อได้แล้ว ให้จัดเวลาเข้าไป ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงก่อน
ขอบคุณ p a t t a n a k i t