
นิยามคำว่าผู้ห ญิงเก่งค่อนข้างจะนามธรรม และขึ้นกับการตี ความของแต่ละคน และหลายครั้งขึ้น
อยู่กับวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ด้วย เริ่มต้นทำได้ง่าย ๆ เพื่อให้กลับมามองเห็นคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง
และลุกขึ้นมาอะไรที่สนุก ๆ ให้กับชีวิต รวมทั้งทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับสังคมกันมากขึ้นด้วย
1. หา “ทาง” ของตัวเองให้เจอ
ทางในที่นี้คือความสามารถ จุดแข็ง ความถนัด ที่คุณทำแล้วรู้สึกเข้ามือ รู้สึกมันใช่ตัวตนของคุณ
รวมทั้งทำแล้วมีความสุข ผู้หญิงเก่งเริ่มต้นจากการที่ไม่ต้องวิ่งตามใครตลอดเวลา
แต่รู้ว่าลู่วิ่งของตัวเองอยู่ตรงไหน แล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปในทางที่ตัวเอง ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใครมาก
2. รักในความเป็นตัวเอง
แม้ว่าคุณจะไม่สมบู รณ์แบบ แต่นั่นคือตัวของคุณเอง คุณต้องเริ่มจากการรักตัวเอง
แบบที่ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยให้ได้ก่อน ถึงไม่เคยทำอะไรสำเร็จก็รักตัวเอง
ถึงจะไม่ดูดีเหมือนพิมพ์นิยมที่สังคมชื่นชมก็รักตัวเอง
ถึงไม่เก่งไม่โดดเด่นอะไรเลยก็รักตัวเอง ถึงดีไม่เท่าคนอื่นก็รักตัวเอง
3. เปิดกว้างรับแนวความคิดในยุคสมัยใหม่
กรอบความคิดเดิม ๆ โดยเฉพาะในยุคสมัยดั้งเดิมมักจะไม่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้
มีความสามารถหรือแสดงออกมากนัก จึงทำให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนไม่ได้
ใช้ศักยภาพที่ตัวเองมีซักเท่าไหร่ แต่การเปิดรับแนวความคิดใหม่
แนวทางของยุคใหม่ จะทลายกรอบและข้อจำกัดที่ฝังอยู่มาแต่เดิมลง
ทำให้คุณอนุญาตให้ตัวเองได้กล้าแสดงออกมากขึ้น อาจเริ่ ม ต้นจากการลองอ่าน
หรือตามดูว่าในโลกยุคปัจจุบัน ผู้หญิงบนโลกนี้ทำอะไรได้บ้าง และคุณมีไอเดียอยากทำอะไรอีกบ้าง
4. หาจุดยืนเป็นของตัวเองให้เจอ
การเป็นไม้อ่อนที่ไหวลู่ไปตามลมนั้นทำให้คุณอยู่รอดจากพา ยุ
แต่จะไม่ทำให้คุณเติบโตสูงตระหง่านเป็นต้นไม้ใหญ่ การที่คอย
แต่จะเอาใจคนอื่น พยายามทำให้ทุกคนมารักมาชอบ นั่นไม่ใช่ ทางที่คุณจะได้เป็นตัวเอง
การพยายามเอาใจผู้คนมากเกินไปทำให้คุณขาดเสน่ห์ และไม่ได้ช่วยให้คุณเติบโต
พัฒนาไปมากนัก แต่หากการมีความเ ชื่อ ความศรั ทธาในบางอย่าง
และผลักดันในจุดยืนนั้นโดยไม่โอนเอนไปตามทุกความคิดเห็นของคนอื่น
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีแนวทางที่ชัดเจน แล้วคุณจะโดดเด่นและมีเสน่ห์มากขึ้นด้วย
5. กล้าริเริ่มลงมือทำในสิ่งที่เชื่อ
เพราะบางอย่างคือสิ่งใหม่ที่อาจเสี่ยงต่อการถูกวิจารณ์ หรือล้มเหลว
แต่หากคุณไม่ลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง คุณค่าและประโยชน์ ก็จะไม่ถูกส่งต่อให้กับคนอื่น
ไอเดียดี ๆ อย่างเดียวไม่ได้พิสูจน์อะไร การนั่งวิพากษณ์วิจารณ์อย่างเดียว
ไม่ได้สร้างให้เกิดผลกระทบอะไร แต่การลงมือทำให้
เป็นชิ้นเป็นอันต่างหากที่จะเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลง
6. ตั้งคำถามกับสิ่งเดิม ๆ ที่เป็นอยู่
บางแนวความคิดที่เป็นกรอบคอยจำกัด คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อทุกคำส อน
หรือความเชื่อเสมอไป จนกว่าคุณจะได้ตั้งคำถาม และค้นพบคำตอบ
ด้วยตัวเองแล้วว่าสิ่งไหนยังใช้ได้ ยังเป็นจริง หรือกรอบความเชื่อไหน
ควรโละทิ้ง ซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัยอีกต่อไป
เพราะหากไม่ตั้งคำถาม คุณก็จะถูกความเชื่อเดิม ๆ ครอบงำอยู่ไม่รู้จบ
7. กล้ารับความท้าทาย
ความท้าทายมักหมายถึงงานที่ยากขึ้น สิ่งที่ต้องดึงศักยภาพของตัวเอง ออกมามากขึ้น
สิ่งที่เราเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ สิ่งที่มาพร้อมกับความเสี่ ยง
สิ่งที่จะดึงเราออกนอกขอบเขตแห่งความสบายของตัวเอง แต่นั่นคือ หนทางของการพัฒนาตัวเอง
คุณจะเก่งได้ก็เพราะทำอะไรที่มันยากเกินสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว
เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่คุณจะต้องระดมสรรพกำลังทั้งหมดรวมทั้งทรัพยากรทั้งหมดที่มีออกมาใช้
เพื่อให้งานนั้นลุล่วงไปด้วยดี คนที่เลือกแต่จะทำสิ่งที่สบาย ๆ
โดยไม่เสี่ ยงก็ต้องยอมแลกกับการมีชีวิตที่อยู่เท่าเดิมไปเรื่อย ๆ เป็นธรรมดา
8. เปิดรับฟีดแบ็กที่เป็นประโยชน์จากคนอื่น
คนเราไม่มีใครเพอร์เฟ็ค คนที่เก่งและยิ่งใหญ่จำนวนมากก็เริ่มต้นจากการพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ
และข้อมูลสำคัญก็มักจะมาจากคนอื่นที่ปรารถนาดีอยากจะให้ข้อมูลเพื่อให้คุณพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
หากปิดประตูงดรับทุกคอมเม้นต์คุณก็จะมองไม่เห็นจุดบอดบางจุด
ซึ่งนั่นจะทำให้คุณพลาดโอกาสในการปิดจุดอ่อนและทำให้ตัวเองสตรองขึ้นไปเรื่อย ๆ
9. ไม่ปล่อยให้คำตัดสินของคนอื่นมาบั่นทอนคุณค่าในตัวเอง
ข้อนี้อาจดูย้อนแย้งกับข้อก่อนหน้านี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างควรอยู่ในระดับที่สมดุล
ไม่สุดโต่ง มากหรือน้อยจนเกินไป ความคิดเห็นของผู้คนมีทั้งจริงและไม่จริง
มีทั้งปรารถนาดีและหวังร้ายให้คุณรู้สึกตกต่ำ ดังนั้นจงใช้วิจารณญาณของตัวเอง
เลือกพิจารณาดูว่า อันไหนควรรับ อันไหนควรปัดทิ้ง จำไว้ว่า
“หากคำตัดสินจากคนอื่นทำให้คุณรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง เลิกสนใจ วางเฉย หรือปัดทิ้งบ้างก็ได้”
10. เลือกสนใจและให้เวลาแต่กับสิ่งที่ผลักดันตัวเองไปข้างหน้า
สิ่งที่คุณให้เวลากับมัน สนใจมัน โฟกัสมัน สุดท้ายมันจะกลายเป็นชีวิตของคุณ
การเลือกรับสื่อและข้อมูลเข้าไปในสมองจะสะท้อนชีวิตในอนาคตของคุณไม่ช้าก็เร็ว
ลองหันมามองว่าตอนนี้คุณให้เวลากับการเสพสื่อแบบไหน ใช้เวลากับการทำอะไร
แค่นี้ก็พอจะมองเห็นอนาคตของคุณได้ไม่ยาก หากคุณเลือกที่จะเป็นคนที่สร้างคุณค่า
ก็ขอจงเลือกที่จะใช้เวลากับสิ่งที่สำคัญกับชีวิตของคุณจริง ๆ
ลองดูว่าอันไหนที่เป็นประโยชน์กับคุณก็ลองนำเรื่องนั้นไปปรับใช้ดูค่ะ อย่าลืมนะคะ
ไม่ว่าใครเพศไหนก็เก่งและมีคุณค่าได้ทั้งนั้น
ที่สำคัญคือการรู้จักตัวเองให้ดี และรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไขก่อนค่ะ
ขอบคุณ b y p i c h a w e e