1.ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างสองคน
ถ้าเป็นรักระยะไกล สมัยก่อน การติดต่อสื่อสาร ระหว่างคนรัก
ก็คงจะเป็นเรื่องยากและไม่ค่อยสะดวกสบายสักเท่าไหร่
อาจจะต้องเขียนจดหมาย ส่งโทรเลข หรือใช้เพจเจอร์เพื่อส่งต่อ ความคิดถึงหากัน
แต่ในสมัยปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้ากว่าเดิมมาก ต่อให้ตัวจะอยู่ห่างไกล
ก็สามารถใช้เทคโนโลยีเป็นตัวกลางกระชับความสัมพันธ์ และดึงคนสองคนให้รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ๆ กันได้
ดังนั้น คู่รักทางไกลก็ต้องขยันส่งต่อความรักและความห่วงใยให้กันผ่านการส่งข้อความทางไลน์
หรือวิดีโอคอลหากันบ่อยๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไป
ในแต่ละวันว่าแต่ละคนพบเจอเรื่องอะไรมาบ้าง รวมทั้งได้เห็นหน้าอีกฝ่าย
ผ่านหน้าจอ สมาร์ตโฟนหรือโน้ตบุ๊ก วิธีนี้ก็จะช่วยคลาย
ความคิดถึง และช่วยให้ไม่รู้สึกเหมือนตัวคนเดียวอีกต่อไป
2. ถึงตัวอยู่ไกลแต่ก็ยังสามารถทำอะไรด้วยกันได้
ถึงแม้ว่าระยะ ทางระหว่างสาวซิส และคนรักมันจะไกลมากแค่ไหน
ก็ตาม จะอยู่คนละจังหวัด คนละประเทศ คนละไทม์โซน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
ทั้งสองคนจะทำอะไรสนุกๆ ร่วมกันไม่ได้สักหน่อยนี่นา โดยอาจจะนัดคนรัก
เพื่อเปิดดูภาพยนตร์ / ซีรีส์เรื่องโปรดผ่าน S k y p e หรือเปิดกล้องวิดีโอคอล
เพื่อกินมื้อเย็นไปพร้อมๆ กัน หรือชวนกันเล่น เกมออนไลน์ อย่างสนุกสุดเหวี่ยงก็ได้นะ
นอกจากการทำกิจ ก ร ร ม ร่วมกันผ่านทางไกลมันจะช่วยแก้เหงา
สร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิตรัก และได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ด้วยกันแล้ว
ทั้งสองคนยังมีโอกาสได้พูดคุยเพื่อบอกเล่าความรู้สึก หรือระบายสิ่ง ที่พบเจอ
ในแต่ละวันให้อีกฝ่ายฟังระหว่างที่ทำกิจ ก ร ร ม นั้นๆ ไปด้วย
แบบนี้เลยช่วยให้คู่รักเข้าใจกันมากขึ้นและไม่รู้สึกห่างเหินกันสักนิดเลยละ
3. ส่งของขวัญที่สื่อถึงตัวเองเป็นสื่อแทนใจในยามคิดถึง
หลายคนอาจอยากให้แฟนซื้อดอกไม้ช่อใหญ่มาเซอร์ไพรส์
หรือเปย์ของราคาแพงๆ ให้ในวันพิเศษ แต่เรารู้นะว่าสำหรับคู่รัก
ที่อยู่ห่างไกลกัน สิ่งที่ต้องการมากที่สุดกลับเป็นเรื่องง่ายๆ
อย่างการได้พบหน้าและใช้เวลาร่วมกันกับคนที่ตัวเองรัก
แต่ในเมื่อการเดินทางมาเจอกันมันดูเป็นเรื่องยากเย็นซะเหลือเกิน
ก็แนะนำให้ส่งของขวัญเป็นสื่อแทนใจไปให้อีกฝ่ายดูสิคะ แล้วของขวัญชิ้นนั้นๆ
ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพงๆ หรือของชิ้นใหญ่โตอะไรเลยนะ
แค่เลือกของที่สื่อถึงตัวเองแล้วส่งไปให้เขา อย่างเช่น
ขวดน้ำหอมกลิ่นที่เราฉีดเป็นประจำ เสื้อยืดตัวโปรดที่เราใส่บ่อยๆ
หรืออัลบั้มเพลงที่มักจะเปิดฟังด้วยกันเสมอ พออีกฝ่ายได้เห็น
หรือหยิบของเหล่านี้ขึ้นมาเขาจะได้นึกถึงเรา และไม่ลืมช่วงเวลาดีๆ ที่มีความสุขร่วมกันนั่นเอง
4. อย่าเอา แต่ส่งแช็ตอย่างเดียว ต้องขยันส่งเสียงหากันบ้าง
ขนาดคู่รักที่ใกล้ชิดทำตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา ก็ยังมีเรื่องให้ทะเลาะหรือเกิดความไม่พอใจ
ระหว่างกันขึ้นได้ง่ายๆ อย่างเช่น พฤติกรรมบางอย่างของเขาช่างขัดใจ
เราซะเหลือเกิน หรือมีเรื่องจุกจิกให้ได้หยิบมาตีกันอยู่เรื่อยๆ
แล้วนับประสาอะไรกับคู่รักทางไกลที่แทบจะไม่ได้เจอหน้า
ก็ย่อมต้องมีปัญหาชีวิตคู่เหมือนกันนั่นแหละ แล้วปัญหาหลักๆ
ที่เป็นอุปสรรคของความรักระยะไกลก็คือ “ การสื่อสาร ” นั่นเองค่ะ
โดยเฉพาะคู่ที่ชอบใช้วิธีสื่อสารกันผ่านตัวอักษร ไม่ว่า
จะเป็นการส่งข้อความผ่านไลน์ เฟซบุ๊ก หรือไอจี ก็มีโอกาสที่จะเกิดความเข้าใจ
ผิดเวลาอ่านข้อความได้ง่ายๆ เพราะตัวอักษรไม่สามารถสื่อสารอารมณ์ น้ำเสียง
และความรู้สึกของคนส่งให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ 100% เต็ม อย่างเช่นตอนนี้
เธอกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วคนรักตอบไลน์ห้วนๆ สั้นๆ ก็อาจกลายเป็น
งอนใส่กันซะงั้น เราเลยอยากแนะนำให้คู่รักทางไกล
ขยันส่งข้อความเสียงหรือโทรหากันบ่อยๆ อย่าเอาแต่ส่งแช็ตอย่างเดียวเชียวนะ
5. ไม่ต้องโทรคุยกันตลอด 24 ชั่ ว โมง แค่ในตอนคิดถึง / มีเรื่องคุยก็พอ
บางครั้งสิ่งที่เป็นตัวการทำลายความรักให้พังทลายลงโดยไม่รู้ตัว
ก็คือความเบื่อหน่ายระหว่างกันนี่แหละค่ะ แล้วความเบื่อๆ เซ็งๆ
ระหว่างคนสองคนไม่ได้เกิดกับแค่คู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเท่านั้น หรอกนะ
เพราะคู่รักทางไกลที่ชอบโทรคุยกันตลอด 24 ชั่ ว โมง หรือตั้งกฎไว้ว่าส่งแช็ตไป
เมื่อไหร่ต้องรีบตอบทันที ก็อาจทำให้รู้สึกอึดอัด หรือ เบื่อหน่ายกับความสัมพันธ์แบบนี้
ขึ้นมาได้เหมือนกัน ลองคิดดูสิว่าถ้าต้องโทรคุย กับ คนรักทั้งวันจนพูดในสิ่งที่อยากพูดไป
จนครบทุกเรื่องแล้ว มันก็ต้องมีบ้างที่จะเกิดโมเมนต์แห่งความเงียบ
เพราะต่างฝ่ายต่างไม่รู้จะชวนคุยเครื่องไหนต่อไปดี จนทำให้รู้สึกอึดอัด
และไม่ค่อยอยากโทรหากันเหมือนช่วงแรกๆ คู่ไหนที่เจอปัญหานี้
อยู่ก็ต้องลองเปลี่ยนพฤติกรรมดูใหม่ เปลี่ยนมาโทรหาคนรักบางช่วงเวลา
แทนจะดีกว่า เช่น ตอนคิดถึง ตอนมีเรื่องอยากคุย หรือตอนมีเรื่องสำคัญ
วิธีนี้ก็จะทำให้แต่ละคนได้มีเวลาไปทำธุระของตัวเอง
และรู้สึกว่าช่วงเวลาที่ได้คุยกัน มันมีค่ามากขึ้นด้วย
6. คอยอัปเดตชีวิตความเป็นไปของแต่ละคนเสมอ
ขอให้คู่รักทางไกลท่องจำไว้ให้ขึ้นใจเลยนะว่า ยิ่งตัวห่างไกลกันมากเท่าไหร่
ก็ต้องยิ่งดูแล เอาใจใส่ พร้อมมอบความรักและความห่วงใย ให้กันอย่างสม่ำเสมอ
แล้วหากเมื่อไหร่ก็ตามที่สาวๆ และคนรักส่งข้อความหากันหรือโทรพูดคุยกัน
ก็อย่าได้ฟังไปงั้นๆ แบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเด็ดขาด เพราะมันอาจ
ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนว่าไม่ได้ รับความรักและความสนใจ มากเพียงพอก็เป็นได้นะ
ดังนั้น ช่วงเวลาที่ได้อัปเดตชีวิตความเป็นไปของแต่ละคน ก็ต้องคอยใส่ใจรายละเอียด
ในสิ่งที่เขาพูด ไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ
ก็ตาม เช่น เขาบอกว่าพรุ่งนี้มีสอบ / มีสัมภาษณ์งาน / ต้องเสนองานกลางที่ประชุม ฯลฯ
พอวันนั้นมาถึงก็อย่าลืมส่งข้อความหรือโทรไปอวยพรให้เขาโชคดี
เพื่อเป็นกำลังใจและทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเราแคร์ทุกเรื่องเกี่ยวกับเขาด้วยไงล่ะ
7. สิ่งสำคัญสำหรับชีวิตรักคือต้องมีความเชื่อใจให้กัน
ถ้าอยากจะประคองความรักให้ชื่นมื่น ราบรื่น และคบกันต่อไปได้นานๆ
เราขอบอกไว้เลยนะคะว่าระหว่างสาวซิสและคนรักจะมีแค่ความรัก
หรือความสวีทหวานให้แก่กันไม่ได้หรอกนะ เพราะสิ่งสำคัญมากๆ
สำหรับชีวิตรักมันคือ “ ความเชื่อใจ ” ในกันและกันต่างหากละคะ
โดยเฉพาะคู่รักทางไกลที่ตัวอยู่ไกลกันก็มักจะมีเรื่องทะเลาะหรือผิดใจกัน
ที่มีสาเหตุมาจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในตัวคนรักนั่นเองค่ะ
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะ เพราะการที่ไม่ได้เจอหน้ากันทุกวัน
ได้แค่สื่อสารกันผ่านข้อความหรือโทรคุยกัน ก็อาจทำให้รู้สึกระแวงว่า
อีกฝ่ายจะแอบนอกใจไปมีคนอื่นมั้ย? ความรักครั้งนี้มันจะยืนยาวรึเปล่า?
ถ้าต้องคบไปเหงาไปแบบนี้สู้อยู่คนเดียวไม่ดีกว่าหรอ? แบบนี้ทั้งตัวสาวๆ
เองและคนรักเลยต้องท่องจำไว้เสมอเลยว่า
“ ทั้งสองคนต้องเชื่อใจในกันและกัน ” และหากช่วงไหนที่รู้สึกหวั่นไหว
ในความสัมพันธ์ ก็ต้องลองเปิดใจพูดคุยกับคนรัก เพื่อหาทางแก้ไขร่วมกันจะดีที่สุดนะ
เราเข้าใจดีเลยนะว่าถ้าต้องอยู่ห่างไกลจากคนรัก ต่างฝ่ายก็อาจเกิดความเหงา
และความหวั่นไหว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ความรักสั่นคลอนได้ง่ายๆ
แต่ขอให้คิดไว้เสมอเลยนะว่าขึ้นชื่อว่าความรักมักไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
ต่อให้จะเป็นคู่รักที่อยู่ใกล้กันมากๆ จนแทบจะสิงกันอยู่แล้ว
หรือคู่รักที่ต้องอยู่ไกลกันคนละซีกโลก ต่างก็ต้องพบเจออุปสรรคปัญหา
ที่แวะเวียนเข้ามาเป็นบททดสอบรักระหว่างคนสองคนทั้งนั้น
สำหรับคู่รักทางไกลที่อยากจะประคองความสัมพันธ์ให้แฮปปี้ และรักกันได้ยาวนาน
ก็ต้องหมั่นพูดคุยและอัปเดตเรื่องราวต่างๆ ให้อีกฝ่ายฟังอย่างสม่ำเสมอ
มีความเชื่อใจในกันและกัน รวมถึงหากิจกรรมทำร่วมกัน
เพื่อกระชับความสัมพันธ์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มพลังความรักให้เต็มร้อยได้แล้ว
ขอบคุณ
