Home ข้อคิด 9 ขั้นตอนเปลี่ยนตัวเอง จากลูกจ้างให้เป็นเจ้าของธุรกิจเอง

9 ขั้นตอนเปลี่ยนตัวเอง จากลูกจ้างให้เป็นเจ้าของธุรกิจเอง

1.บันทึกค่าใช้จ่ายประจำวัน

เมื่อรู้รายได้แล้วสิ่งสำคัญก็คือรายจ่ายบันทึกค่าใช้จ่าย ประจำวันครับค่าอาหาร, ค่าเช่าที่พัก

,ค่าเดินทาง ,ค่ารถ,ค่าบัตรเครดิต,ค่าน้ำ,ค่าไฟ,ของใช้,ภาษีฯบันทึกมันลงมาครับว่า ในแต่ละวัน แต่ละเดือนเป็นเท่าไหร่

2.ดูรายรับของเราแต่ละเดือน

ดูก่อนเลยครับเงินเดือนเรา แต่ละเดือนเป็นเท่าไหร่ ให้เราคำนวนว่า 1 ปี เรามีเงินรายได้ ทั้งหมดเท่าไหร่

จะได้ดูเป็นเงินก้อนมี กำลังใจว่า เราก็สามารถทำเงิน ในแต่ละปี ได้ไม่น้อยทีเดียว

เช่นเงินเดือน 15,000 บาท เท่ากับว่า1ปีเรามี รายได้ ทั้งหมด 180,000 บาท เลยทีเดียว

3.ประมาณการและติด ต า ม รายรับพิเศษตลอดทั้งปี

คราวนี้มาดูรายได้พิเศษ ที่อาจจะเกิดขึ้นเช่นค่า คอมมิชชั่น ค่าโบนัสหรือรายได้พิเศษอื่น ๆ

ลองบันทึกเป็นตัวเลข ไว้ครับแยก ออกจากรายได้ ประจำนะครับเงินส่วนนี้

อย่างน้อยมันก็สะสม นำมาเป็นเงินทุนได้ หากเราไม่ใช้จ่าย เลือกที่จะเก็บออม

4.กำหนดเป้าหมายในการเก็บเงิน

เรารู้ หมดแล้วว่า “รายได้” ทั้งเปีนเท่าไหร่“รายจ่ายทั้งหมด” เป็นเท่าไหร่จะตัดจะลดอะไร

ก็รู้หมดคราวนี้ก็กำหนดเป้าหมายเลย ครับว่า จะเก็บจะออมเงินเท่าไหร่ เดือนละกี่บาท บางคน

บอกเก็บเดือนละ 1,000เท่ากับ1ปีก็มีเงินเก็บ 12,000 ได้เงินโบนัสอีก 1 เดือน ก็รวมเป็น 27,000 บาท

มีเงิน27,000นี่พอเริ่มธุรกิจเล็ก ๆ ได้แล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็น การขายลูกชิ้น ทอด,

เสื้อผ้าเด็กฯลงทุนไปทีละนิดเดี๋ยว มันก็มีเงินทบต้นดอกเบี้ยกำไร ไปต่อฝันใหญ่ ได้เองครับ

5.ลดค่าใช้จ่ายประจำวัน

รายจ่ายในแต่ละวันมันจำเป็นตัดไม่ได้แต่สามารถลดได้ครับเคยทานข้าวห้องแอร์

นั่งห้างมาทานห้องแถว ข้างออฟฟิตได้ไหม,น้ำไฟใช้ให้ประหยัดลงได้ หมดอะไรไม่ใช้

ก็ปิดสิ่งเหล่านี้ เราสามารถลดได้ ครับถ้าตั้งใจที่จะลดมันครับ

6.บันทึกค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงประจำวัน

ยังมีค่าใช้จ่ายอีกอย่างที่ต้องบันทึกผมเรียกมันว่าค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง เพื่อเข้าสังคมบ้างแหละ

เช่นงานเลี้ยง,ค่าของขวัญ,ค่าซองงานแต่งงาน บวช,ดูหนัง,ฟังเพลง,เลี้ยงสาว,ลุ้นหวยฯ

เหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงทั้งนั้น ครับต้องบันทึก และประมาณการไว้ ด้วยครับ

7.รวมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเพื่อความบันเทิง

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือนและปีประมาณการแล้วเท่าไหร่คราวนี้ เราก็จะได้รู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ทั้งปีที่เกิดขึ้นมันจะเป็นเท่าไหร่ที่เหลือก็แค่บริหารจัดการ

8.คัดค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงออก

ได้เวลาตัดค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงออกครับเป็นการตัดทิ้ง“เนื้อร้าย ”ทางรายจ่ายครับอะไร

ตัดได้ตัดค่ า เ ห ล้า , ค่  า เบี ย ร์ , บุ ห รี่ , ห ว ย ฯ ส่วนนี้

ตัดออกก่อนเลยครับแล้วดูสิว่าหากตัดส่วนนี้ไป

รายจ่ายเราลดลงไปเท่าไหร่นั่นเท่ากับว่าเรามีเงินเหลือเป็นทุนได้เท่านั้น

9.ตรวจสอบเป้าหมายการออมและเงินที่ออมได้ในแต่ละเดือน

เป้าหมายที่วางไว้นั้นเรา“ซื่อสัตย์”กับเป้าหมายมากน้อย แค่ไหนหลายคนมาตกม้า ต า ย เอาตอนนี้ แหละครับ

เราขาดความ“อดทน”ไม่ “จริงใจ” กับตัวเองทำให้เราไม่สามารถเ ก็บออมเงินเพื่อ

มาเป็นทุนได้พย า ย า ม ครับตั้งใจ ที่จะทำจริงๆเก็บเงินให้ได้ออมให้ อยู่ลดละเลิกค่าใช้จ่าย

ที่ไม่เกิดประโยชน์สำหรับ 9 ขั้นตอนพื้นฐานเพื่อการเก็บ เงินก้อนแรกมา

เปิดธุรกิจอาจจะดูว่ามัน“ช้า” เป็นปีสองปีเลยหรือกว่าจะได้เงินสักก้อน สำหรับมุมมองผมมันไม่ช้าหรอกครับ

สิ่งที่ช้ากว่า ก็คือการที่เรา “ไม่เริ่ม” ที่จะหาวิธีการเพื่อให้ได้เงินทุนมากครับ “ไม่คิด” ที่จะ “เก็บออม”ไม่ประหยัด

และก็ยัง“นั่งบ่น”ว่าไม่มีเงินทุนเลยไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบางคน อยาก “รวยทางลัด”

หวังหาเงิน ได้เร็ว ถ้าทำได้จริงผมก็ขออนุโมทนา ด้วยนะครับ แต่สิ่งที่ผมเตือน

สำหรับคนที่อยากรวยเร็ว คือ“คุณอาจจนเร็วยิ่งกว่า” นะครับได้เวลา ที่จะมาสำรวจรายได้

รายจ่ายเก็บออมเงิน เพื่อประเดิมธุรกิจ แรกกันแล้วครับ

 

ขอบคุณ m e o k a y n a

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ข้อคิด

Check Also

7 ลักษณะคนเก่งและฉลาด ในที่ทำงาน..เก่งไม่เหมือนใคร

1.มีทัศนคติในเชิงบวก คนที่มองโลกในแง่ดี จะมองเห็นโอกาสอยู่เสมอ ทั้งยังเข้าใจผู้อื่นได้เป็น…